ทำความรู้จักบาคาร่า: เกมไพ่ยอดนิยมอันดับ 1 ที่ใครก็เล่นได้
บาคาร่า ถือเป็นหนึ่งในเกมไพ่ที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามและมาแรงที่สุดในโลกการพนัน ไม่ว่าจะเป็นนักเดิมพันมือใหม่หรือเซียนพนันต่างก็หลงใหลในความง่ายและโอกาสในการทำเงินที่รวดเร็ว หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังสนใจอยากจะทำความเข้าใจ “บาคาร่าคืออะไร?“ และอยากรู้ว่าเกมนี้เล่นง่ายและสนุกจริงอย่างที่หลายคนรีวิวไว้หรือไม่ คุณมาถูกที่แล้ว! การเรียนรู้ “ศัพท์บาคาร่า” เบื้องต้นก่อนเริ่มเดิมพันจริงจะช่วยให้คุณเข้าใจเกมได้ลึกซึ้งขึ้นและเพิ่มโอกาสในการชนะเดิมพันได้อย่างมืออาชีพ
ทำไมต้องรู้ศัพท์บาคาร่าก่อนเล่น?
การรู้คำศัพท์เฉพาะของเกมบาคาร่ามีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยให้คุณสามารถวางเดิมพันได้อย่างมีประสิทธิภาพและชาญฉลาด เพราะในแต่ละช่องที่คุณจะวางเดิมพันนั้นมีเงื่อนไขและอัตราผลตอบแทนที่แตกต่างกัน การทำความเข้าใจศัพท์เหล่านี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ดีขึ้นและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร เหมือนนักพนันมืออาชีพ
หลักการเล่นบาคาร่าเบื้องต้นที่คุณควรรู้
เกมไพ่บาคาร่ามีหลักการเล่นที่เข้าใจง่าย โดยจะมีการแบ่งช่องให้คุณเลือกวางเดิมพันดังนี้:
- Banker (ฝั่งเจ้ามือ): หากเลือกเดิมพันฝั่งนี้ และแต้มไพ่ของเจ้ามือสูงกว่า ถือว่าชนะ
- Player (ฝั่งผู้เล่น): หากเลือกเดิมพันฝั่งนี้ และแต้มไพ่ของผู้เล่นสูงกว่า ถือว่าชนะ
- Tie (เสมอ): หากเลือกเดิมพันฝั่งนี้ และแต้มไพ่ของทั้งสองฝั่งเท่ากัน ถือว่าชนะ
- Banker Pair (เจ้ามือไพ่คู่): วางเดิมพันว่าไพ่สองใบแรกของฝั่งเจ้ามือจะเป็นไพ่คู่เหมือนกัน
- Player Pair (ผู้เล่นไพ่คู่): วางเดิมพันว่าไพ่สองใบแรกของฝั่งผู้เล่นจะเป็นไพ่คู่เหมือนกัน
วิธีการเล่นบาคาร่าเบื้องต้น คือ ผู้เล่นจะต้องทำการเลือกแทงตามช่องเดิมพันที่เปิดไว้ โดยสามารถเลือกแทงได้ทั้งฝั่ง Banker, Player หรือ Tie Game จากนั้นดีลเลอร์จะเป็นผู้เปิดไพ่และวางไพ่เป็น 2 ฝั่ง ได้แก่ ฝั่งเจ้ามือและผู้เล่น หากฝั่งไหนได้แต้มสูงกว่าจะถือว่าชนะ หรือหากผลรวมของไพ่เข้ากับเงื่อนไขการจ่ายตามช่องเดิมพันที่คุณเลือกไว้ คุณก็จะได้รับเงินตามที่เว็บไซต์กำหนด
รวมคำศัพท์บาคาร่าที่พบบ่อยบนโต๊ะเดิมพัน
เพื่อให้คุณเข้าใจการสื่อสารและตัวเลือกการเดิมพันได้ง่ายขึ้น นี่คือคำศัพท์สำคัญที่มักใช้บนโต๊ะบาคาร่าพร้อมความหมาย:
- Banker: ฝั่ง “เจ้ามือ” หากเจ้ามือมีแต้มรวมมากกว่า ถือว่าชนะ
- Player: ฝั่ง “ผู้เล่น” หากผู้เล่นมีแต้มรวมมากกว่า ถือว่าชนะ
- Any Tie: หมายถึง การเดิมพันว่าไพ่ของทั้งสองฝั่ง (Player และ Banker) จะมีแต้มเท่ากันหรือ “เสมอ” กัน
- Bonus ฝั่ง Banker: หมายถึง การเดิมพันว่าฝั่งเจ้ามือจะได้ไพ่ “ป๊อก” 8 หรือ 9 แต้ม
- Bonus ฝั่ง Player: หมายถึง การเดิมพันว่าฝั่งผู้เล่นจะได้ไพ่ “ป๊อก” 8 หรือ 9 แต้ม
- B. Pair ฝั่ง Player: หมายถึง การเดิมพันว่าไพ่สองใบแรกของฝั่งผู้เล่นจะเป็น “ไพ่คู่” เช่น K K, 3 3, 6 6, 8 8
- Tie 8-9: ผลการเดิมพันที่ทั้งสองฝั่งเสมอกันที่แต้ม 8 หรือ 9
- Tie 6-7: ผลการเดิมพันที่ทั้งสองฝั่งเสมอกันที่แต้ม 6 หรือ 7
- Tie 4-5: ผลการเดิมพันที่ทั้งสองฝั่งเสมอกันที่แต้ม 4 หรือ 5
- Tie 1-2-3: ผลการเดิมพันที่ทั้งสองฝั่งเสมอกันที่แต้ม 1, 2 หรือ 3
- Tie 0: ผลการเดิมพันที่ทั้งสองฝั่งเสมอกันที่แต้ม 0
- Ruby 8: ไพ่สามใบของฝั่งผู้เล่นรวมกันได้ 8 แต้ม (บางค่ายอาจมีตัวเลือกนี้)
- Lucky 7: ไพ่สามใบของฝั่งเจ้ามือรวมกันได้ 7 แต้ม (บางค่ายอาจมีตัวเลือกนี้)
- Small: ไม่มีการจั่วไพ่เพิ่มทั้งสองฝั่ง (ผลรวมไพ่สองใบแรกอยู่ในเกณฑ์ 4 หรือ 5)
- Big: มีการจั่วไพ่เพิ่มอย่างน้อยหนึ่งฝั่ง (ผลรวมไพ่สองใบแรกอยู่ในเกณฑ์ 0, 1, 2, 3, 6, 7, 8, 9)
ศัพท์ที่มักได้ยินเมื่อเล่นบาคาร่า
นอกจากคำศัพท์บนโต๊ะเดิมพันแล้ว ยังมีคำศัพท์อื่น ๆ ที่คุณอาจได้ยินบ่อยครั้งเมื่อเล่นบาคาร่า:
- Dealer (ดีลเลอร์): คือ ผู้ที่ทำหน้าที่แจกไพ่ในเกม
- Stand (สแตนด์): คือ การตัดสินใจ “ไม่จั่วไพ่เพิ่ม”
- Monkey (มังกี้): คือ ไพ่ที่มีค่าเท่ากับ 0 แต้ม ได้แก่ ไพ่ J, Q, K และ 10
- Natural (แนชเชอรัล): คือ การที่ไพ่สองใบแรกได้แต้มรวม 8 หรือ 9 หรือที่เรียกกันว่า “ไพ่ป๊อก”
- Dragon (ดราก้อน): คือ รูปแบบการออกผลการพนันที่ชนะอยู่ฝั่งเดียวกันติดต่อกันหลายครั้ง เหมือน “หางมังกร” ที่ทอดยาว
- Ping Pong (ปิงปอง): คือ รูปแบบการออกผลการพนันที่ผลัดกันแพ้หรือชนะไปมาหลายครั้งติดกัน เช่น Banker, Player, Banker, Player
- Face Card (เฟซการ์ด): คือ ไพ่รูปหน้าคน ได้แก่ J, Q, K
- Commission (คอมมิชชั่น): คือ “ค่าต๋ง” หรือค่าธรรมเนียมที่คาสิโนเรียกเก็บ มักจะเห็นเมื่อแทงฝั่งเจ้ามือชนะ (เช่น หัก 5%)
เจาะลึก Player Pair และ Banker Pair
Player Pair คืออะไร?
Player Pair (เพลย์เยอร์แพร์) คือ หนึ่งในตัวเลือกการวางเดิมพันที่คุณจะเห็นบนตารางเดิมพันของเกมบาคาร่า โดยปกติแล้วจะอยู่มุมบนของฝั่ง Player ช่องนี้เปิดให้คุณวางเดิมพันเมื่อไพ่สองใบแรกของฝั่ง Player เป็น “ไพ่คู่เหมือนกัน” เช่น J J, 4 4, 6 6, 7 7 เป็นต้น การเดิมพันในช่อง Player Pair มีอัตราการจ่ายเงินสูงถึง 11 เท่า เลยทีเดียว! นั่นหมายความว่า หากคุณเดิมพัน 1,000 บาท แล้วไพ่เป็นคู่ คุณจะได้รับเงินถึง 11,000 บาท (ไม่รวมทุน)
ทริคทำกำไรจาก Player Pair
- สังเกตหลังไพ่เสมอ: บ่อยครั้งที่การออกไพ่เสมอ มักจะตามมาด้วยไพ่คู่เหมือนภายใน 3-6 ตาถัดไป
- เริ่มด้วยขั้นต่ำ: ลองวางเดิมพันในช่อง Player Pair และ Banker Pair ด้วยอัตราเงินขั้นต่ำที่กำหนดไว้ เพื่อทดลองดูแนวโน้ม
- พิจารณาช่อง Any Pair: หากโต๊ะมีช่อง Any Pair ให้เลือกเดิมพันช่องนี้เป็นอันดับแรก เพราะครอบคลุมทั้ง Player Pair และ Banker Pair
- ไม่มีสูตรตายตัว: ไพ่คู่และไพ่เสมอไม่มีสูตรที่ตายตัว ผู้เล่นควรศึกษาและจดสถิติไว้ หากในช่วงต้นเกมผลเสมอออกไปแล้ว แนะนำว่าไม่ควรแทงไพ่คู่เหมือนหากเจอผลเสมอในช่วงท้ายเกม
- พิจารณาจำนวนตา: สำหรับไพ่คู่เหมือนมักจะให้ผลดีกับไพ่เสมอหลังจากที่ได้เล่นไปแล้วไม่เกิน 30 ตาเท่านั้น
Banker Pair คืออะไร?
Banker Pair (แบงค์เกอร์แพร์) คือ การเดิมพันว่าไพ่สองใบแรกของฝั่ง Banker (เจ้ามือ) จะเป็น “ไพ่คู่เหมือนกัน” เช่น 8 8, 9 9, A A เป็นต้น เช่นเดียวกับ Player Pair การเดิมพันในช่อง Banker Pair ก็มีอัตราการจ่ายที่สูงถึง 11 เท่า หากคุณเดิมพัน 1,000 บาท แล้วไพ่เจ้ามือออกคู่ คุณก็จะได้เงิน 11,000 บาท (ไม่รวมทุน)
การนับแต้มไพ่บาคาร่า: หัวใจสำคัญของเกม
การทำความเข้าใจวิธีการนับแต้มไพ่เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการเล่นบาคาร่า เพราะผลแพ้ชนะขึ้นอยู่กับแต้มรวมของไพ่ในแต่ละฝั่ง โดยมีหลักการง่ายๆ ดังนี้:
- ไพ่ A (เอซ): มีค่าเท่ากับ 1 แต้ม
- ไพ่ 2-9: มีค่าตามหน้าไพ่
- ไพ่ 10, J, Q, K (มังกี้): มีค่าเท่ากับ 0 แต้ม
หลักการรวมแต้ม: หากผลรวมของไพ่เกิน 9 แต้ม ให้ยึดเอาเฉพาะเลขหลักหน่วยเท่านั้น เช่น:
- ไพ่ 7 + 8 = 15 แต้ม จะนับเป็น 5 แต้ม
- ไพ่ K + 5 = 5 แต้ม
- ไพ่ 9 + A = 10 แต้ม จะนับเป็น 0 แต้ม
เป้าหมายคือการให้ฝั่งที่คุณเดิมพันมีแต้มรวมใกล้เคียง 9 มากที่สุด
กฎการจั่วไพ่ใบที่สาม: สิ่งที่ควรรู้
ในบาคาร่า ไม่ใช่ผู้เล่นทุกคนที่จะตัดสินใจจั่วไพ่เอง ดีลเลอร์จะจั่วไพ่ใบที่สามตามกฎที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ซึ่งผู้เล่นไม่จำเป็นต้องจำทั้งหมด แต่การรู้ไว้จะช่วยให้เข้าใจเกมมากขึ้น:
กฎการจั่วไพ่ของฝั่ง Player (ผู้เล่น)
- แต้มรวม 0-5: Player ต้องจั่วไพ่เพิ่ม 1 ใบ
- แต้มรวม 6-7: Player ไม่ต้องจั่วไพ่ (Stand)
- แต้มรวม 8-9: Player ไม่ต้องจั่วไพ่ (Natural) และถือเป็นไพ่ป๊อก
กฎการจั่วไพ่ของฝั่ง Banker (เจ้ามือ)
การจั่วไพ่ของ Banker จะซับซ้อนกว่าเล็กน้อย โดยขึ้นอยู่กับแต้มรวมของ Banker และไพ่ใบที่สามของ Player:
- Banker มีแต้มรวม 0-2: Banker ต้องจั่วไพ่เพิ่ม 1 ใบเสมอ
- Banker มีแต้มรวม 3: Banker จั่วไพ่เพิ่ม หาก Player จั่วไพ่ใบที่สามได้ 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 9, 0 (ยกเว้น 8)
- Banker มีแต้มรวม 4: Banker จั่วไพ่เพิ่ม หาก Player จั่วไพ่ใบที่สามได้ 2, 3, 4, 5, 6, 7
- Banker มีแต้มรวม 5: Banker จั่วไพ่เพิ่ม หาก Player จั่วไพ่ใบที่สามได้ 4, 5, 6, 7
- Banker มีแต้มรวม 6: Banker จั่วไพ่เพิ่ม หาก Player จั่วไพ่ใบที่สามได้ 6, 7
- Banker มีแต้มรวม 7: Banker ไม่ต้องจั่วไพ่ (Stand)
- Banker มีแต้มรวม 8-9: Banker ไม่ต้องจั่วไพ่ (Natural) และถือเป็นไพ่ป๊อก
สรุป: ก้าวแรกสู่การเป็นเซียนบาคาร่า
สำหรับใครที่ยังเป็นมือใหม่และกังวลว่าจะเล่นบาคาร่ายากไหม? บอกเลยว่าความกังวลของคุณจะหมดไป เพียงแค่คุณศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ “ศัพท์บาคาร่า” และกฎการเล่นพื้นฐานให้เข้าใจก่อนเริ่มเล่นจริงเท่านั้น คุณก็จะสามารถสนุกไปกับการเดิมพันและสร้างกำไรจากเกมไพ่ยอดนิยมนี้ได้อย่างไม่ยากเย็น!